(!) เนื่องจาก Microsoft จะหยุดให้การสนับสนุนระบบปฏิบัติการ Windows 7 ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2563 และอาจส่งผลให้ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ไม่สามารถใช้งานเว็บไซต์มิซูมิได้อย่างสมบูรณ์ กรุณาอัพเดทระบบและบราวเซอร์ตามเงื่อนไขระบบที่รองรับมิซูมิเว็บไซต์

    Sales
  • ดูล่าสุด
  • ชิ้นส่วนของฉัน
  • รถเข็น
ผลิตภัณฑ์ที่ดูล่าสุด
X
ชิ้นส่วนของฉัน
X
รถเข็น รายการ
X
Loading...
  • แจ้งวันหยุดทำการในเดือน เมษายน 2567 | Notice holiday in April 2024 > คลิก

ตลับลูกปืนเม็ดกลม

ตลับลูกปืน เป็นชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ที่ทำหน้าลดแรงเสียดทานระหว่างชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ และรองรับโหลดในแนวแกนและโหลดในแนวรัศมี อุปกรณ์ชิ้นนี้โดยทั่วไปจะใช้ในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ต้องเคลื่อนที่แบบหมุน เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้า มอเตอร์, ปั๊ม และอื่นๆ โดยมีตลับลูกปืนหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ตัวอย่างเช่น ตลับลูกปืนร่องลึก (แบบ 1 แถวและแบบ 2 แถว), ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม, ตลับลูกปืนกันรุน เป็นต้น นอกจากนี้ คุณสามารถเลือกขนาดและคุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ขนาดรู), ประเภทตลับลูกปืน, รูปแบบของการรับโหลด, ความแม่นยำ, สภาพแวดล้อม ฯลฯ ซึ่งแบรนด์ที่แนะนำสำหรับตลับลูกปืน ได้แก่ MISUMI, ESCO, NTN และ NSK ตลับลูกปืน พร้อมบริการจัดส่งฟรีและไม่มีขั้นต่ำในการสั่งซื้อ หากคุณมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์หรือข้อกังวลใด ๆ ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกข้อสงสัย
CAD
วันจัดส่ง
  • ทั้งหมด
  • บริการจัดส่งวันเดียวกัน
  • 1 วันหรือน้อยกว่า
  • 2 วันหรือน้อยกว่า
  • 3 วันหรือน้อยกว่า
  • 5 วันหรือน้อยกว่า
  • อื่น ๆ
ไม่พบผลิตภัณฑ์
30
60
90

กำลังโหลด …

ตัวอย่างแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้อง

กลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องสำหรับ ตลับลูกปืนเม็ดกลม

FAQ ตลับลูกปืน

Question: วิธีการเลือกตลับลูกปืนเม็ดกลมให้เหมาะสมกับงาน/เครื่องจักร
Answer: 1. เลือกตลับลูกปืนให้เหมาะสมกับขนาดของ “บ่าสวมเพลา (Bore)” และ “เส้นผ่านศูนย์กลาง (Diameter)” ของเพลา เพื่อให้สามารถสวมใส่กับอุปกรณ์ได้อย่างพอดี ไม่เกิดการหลวมคลอน เพราะอาจทำให้เกิดการ Misalignment ขึ้นได้
2. เลือกตลับลูกปืนให้เหมาะสมกับความเร็วรอบในการหมุนของเพลา เพื่อป้องกันการเกิดความร้อนสะสมขึ้นที่เม็ดลูกกลิ้ง (Ball) และตลับวงแหวน (Ring) ซึ่งจะทำให้วัสดุของตลับลูกปืนเกิดการสึก/ชำรุด
3. เลือกตลับลูกปืนให้เหมาะสมกับแรงกระทำ ซึ่งมีแรงกระทำตามแนวรัศมี (Radial Load) และแรงรุนตามแนวแกนของเพลา (Axial Load) ไม่เช่นนั้น ตลับลูกปืนอาจเสียหายจากการรับแรงที่ไม่เหมาะสมได้
4. เลือกตลับลูกปืนให้มีค่าช่องว่างภายใน (Clearance) ที่เพียงพอ เหมาะสมกับความร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทำงาน เช่นตลับลูกปืนของสายพานเตาหลอม เพราะความร้อนจากสภาพแวดล้อมนี้จะทำให้เม็ดลูกกลิ้ง (Ball) และตลับวงแหวน (Ring) เกิดการขยายตัว จึงเกิดการบีบอัดและเสียดสีเพิ่มขึ้น
5. เลือกตลับลูกปืนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่นการทำงานในสถานที่ที่มีฝุ่นเยอะ ก็ควรตลับลูกปืนแบบมีฝาปิด เพื่อป้องกันฝุ่นเขาไปในรังลูกปืน หรือเลือกตลับลูกปืนที่มีความสามารถในการทนความร้อน เป็นต้น
Question: ตลับลูกปืนมีกี่ประเภทและใช้กับงานอะไรบ้าง
Answer: โดยทั่วไปแล้ว ตลับลูกปืนจะสามารถแบ่งได้เป็น2กลุ่มใหญ่ๆคือ
1. ตลับลูกปืนแบบลูกกลิ้ง (Rolling-element bearing) ซึ่งภายในจะมีเม็ดลูกกลิ้ง (Ball/ Roller) บรรจุอยู่ระหว่างแหวนวงนอกและแหวนวงใน ใช้ในการรับน้ำหนัก และถ่ายเทแรงจากแกนหมุน ซึ่งสามารถแบบออกได้เป็นอีก 2 กลุ่มคือ
  1.1. ตลับลูกปืนแบบเม็ดกลม (Ball Bearing) ซึ่งจะมีเม็ดลูกกลิ้งเป็นแบบทรงกลม โดยสามารถรับแรงตามแนวรัศมีและแนวแกนได้ดี เช่น ใช้ในล้อจักรยาน
  1.2. ตลับลูกปืนเม็ดทรงกระบอก (Roller bearing) โดยภายในจะใช้เม็ดลูกกลิ้งที่มีรูปร่างเป็นทรงกระบอกแทน ทำให้เหมาะแก่รับแรงตามแนวรัศมีเป็นหลัก เช่น ใช้งานกับพูลเล่ย์ของสายพานลำเลียง
2. ตลับลูกปืนกาบ (Plain bearing) เป็นตลับลูกปืนอีกประเภทหนึ่ง มีส่วนประกอบหลักๆ2ส่วน คือ Journal ซึ่งเป็นชิ้นส่วนกระบอกกลวงอยู่ด้านนอก และ Journal Bearing ซึ่งเป็นชิ้นที่สวมกับเพลาอยู่ภายใน โดยตลับลูกปืนกาบจะใช้น้ำมันเป็นสารหล่อลื่น และสามารถตั้งศูนย์ได้ด้วยตัวเอง เหมาะกับงานที่มีความเร็วรอบต่ำและงานที่มีแรงเยื้องศูนย์มาก เช่น ใช้สวมปลายก้านสูบของรถขุด เป็นต้น
Question: วิธีการอ่านและใช้ตารางขนาดตลับลูกปืนปืนเม็ดกลม
Answer: วิธีการอ่านและใช้ตารางขนาดตลับลูกปืนปืนเม็ดกลม
โดยทั่วไปแล้วตารางขนาดตลับลูกปืนจะประกอบด้วย 4 คอลัมน์
- คอลัมน์ที่ 1 จะเป็น Part Number ซึ่งจะเป็นรหัสของตลับลูกปืน
- คอลัมน์ที่ 2 จะบอกขนาดรูสวมเพลา โดยจะใช้ตัวย่อเป็น d หรือ Inside Diameter
- คอลัมน์ที่ 3 จะบอกขนาดแหวนนอก โดยจะใช้ตัวย่อเป็น D หรือ Outside Diameter
- คอลัมน์ที่ 4 จะบอกความหนาของบ่าสวม (Bore) โดยจะใช้ตัวย่อเป็น B เพื่อให้สามารถนำไปสวมบ่ารองได้พอดี ไม่เกินการขยับตามแนวแกนซึ่งจะทำให้เกิดแรงรุนได้
ในตารางตลับลูกปืนบางประเภท อาจจะมีคอลัมน์อื่นๆ เพื่อใช้บ่งบอกรายละเอียดเพิ่มเติมอีก เช่น ความเร็วรอบ, อัตราการรับโหลด, มวลของตลับลูกปืน เป็นต้น
จากข้อมูลข้างต้นเป็นการอ้างอิงจาก แคตตาล็อกสินค้าจากทาง MISUMI ในบางผู้ผลิต ลำดับของตารางอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย
Question: วัสดุของตลับลูกปืนมีอะไรบ้าง และมีคุณสมบัติอย่างไร
Answer: - วัสดุประเภท Carbon Steel มีราคาถูกที่สุด มีความแข็งแรง แต่เนื้อวัสดุทนความร้อนได้ต่ำ และไม่สามารถรับโหลดหรือการทำงานที่มีความเร็วรอบสูงได้
- วัสดุประเภท Chrome Steel มีความแข็งแรงและความสามารถในการรับโหลดสูงกว่าแบบเหล็กคาร์บอน แต่ต้องการการหล่อลื่นที่ดีและตัววัสดุไม่ทนสารเคมีและการกัดกร่อน
- วัสดุประเภท Stainless Steel มีประสิทธิภาพที่สูง แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน แต่มีน้ำหนักมาก ต้องการการหล่อลื่นที่ดี และมีราคาสูง
- วัสดุประเภท Ceramic สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี ทนต่อการกัดกร่อน น้ำหนักเบา แต่ก็มีความสามารถในการรับโหลดที่ต่ำกว่าตลับลูกปืนโลหะ
- วัสดุประเภท Polymer มีวัสดุให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งไนลอน, Polyethylene(PE) ฯลฯ ซึ่งตลับลูกปืนโพลิเมอร์นี้มี มีความเสียดทานต่ำ น้ำหนักเบา ทนทานต่อสนิม และไม่ต้องใช้การหล่อลื่นใดๆ แต่ก็มีราคาแพงและทนต่อความร้อนได้ต่ำ
- วัสดุผสม (Hybrid) เป็นการออกแบบโดยใช้วัสดุผสมเพื่อความสามารถในการรับแรงที่สูงที่สุด อีกทั้งยังทนต่อความร้อน และการทำงานที่มีความเร็วรอบสูง แต่ก็มีราคาแพงมากและหาซื้อได้ยาก มักจะใช้กับงานที่มีความเฉพาะเจาะจงเท่านั้น
Question: การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วไปของตลับลูกปืนเม็ดกลม
Answer: 1. ผิวลูกปืนสึก โดยส่วนมากเกิดจากมีสิ่งสกปรกที่มีขนาดเล็ก เล็ดลอดเข้ามาภายในเสื้อลูกปืน ทำให้เกิดการขัดสีกับผิวของลูกกลิ้ง ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการใช้ตลับลูกปืนแบบมีฝาปิดกันฝุ่น และการอัดจาระบีหล่อลื่น เป็นต้น
2. ตลับลูกปืนเกิดเป็นสนิม สาเหตุมาจากมีน้ำ/ความชื้นเกิดขึ้น ซึ่งการใช้ จาระบีในการหล่อลื่นตลับลูกปืนจะช่วยเคลือบผิววัสดุไม่ให้สัมผัสกับความชื้นในอากาศ ลดการเกิดสนิมได้
3. รังลูกปืนบุบ/เสียรูป โดยส่วนมากเกิดการตลับลูกปืนตกกระแทก แต่ก็มีบางกรณีที่เกิดขึ้นจากการประกอบที่ไม่ถูกต้อง เช่น ค่า Clearance หลังประกอบไม่ได้ตามกำหนด ทำให้มีช่องว่างจนเกิดการกระแทกของเม็ดลูกกลิ้งกับรังลูกปืน
4. ลูกปืนแตก/หักทั้งชิ้น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุมาก แต่โดยหลักๆก็คือการที่เกิดแรงกระทำกับตลับลูกปืนมากเกินกว่าค่ายอมรับได้ เช่นการเลือกใช้ลูกปืนที่ไม่เหมาะสมกับงาน หรือการใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสมกับลูกปืน เช่น เพลาที่มีการคดงอ เป็นต้น
Question: ข้อแตกต่างระหว่างตลับลูกปืนธรรมดากับตลับลูกปืนร่องลึก
Answer: ตลับลูกปืนแบบร่องลึก (Deep Grove Ball Bearing) จะมีขนาดของรางวิ่ง (Raceway) ที่ฟิตพอดีกับขนาดของเม็ดลูกกลิ้ง ทำให้ตลับลูกปืนแบบร่องลึกมีความเสถียรมากกว่าและรับโหลดได้สูงกว่าตลับลูกปืนทั่วๆไป อีกทั้งยังมีค่าการเสียดทานที่ต่ำ และสามารถรับแรงได้อย่างดีทั้งในแนวรัศมีและแนวแกน